ผู้ช่วยสั่งด้วยเสียงเข้ามามีบทบาทนานมาแล้ว ตั้งแต่การเกิดขึ้นในยุคแรกเมื่อปี 1960 ผู้ช่วยเสียงชิ้นแรกคือ อุปกรณ์ Shoebox ของ IBM ซึ่งสามารถเข้าใจได้ 16 คำ และ 9 หลัก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้ช่วยเสียงได้พัฒนาตลอดใน 4 ยุคสมัย: ยุคเริ่มต้น ยุคก่อนสมัยใหม่ ยุคสมัยใหม่ และยุคสมัยการปฏิรูปลำโพงอัจฉริยะ
ยุคสมัยใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อการเปิดตัวของ Siri ผู้ช่วยเสียงชิ้นแรกที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้อย่างกว้างขวาง ตามด้วย Google Now และ Microsoft’s Cortana ในปี 2014 Amazon ได้นำเสนอ Alexa ซึ่งช่วยในยุคการปฏิรูปลำโพงอัจฉริยะ ยุคการปฏิรูปลำโพงอัจฉริยะได้เปลี่ยนแปลงวิธีคิดของผู้คนเกี่ยวกับเทคโนโลยีเสียง และผู้ช่วยเสียงกำลังแทรกซึมในทุกๆ วิถีชีวิตประจำวันของมนุษย์ในตอนนี้
ผู้ช่วยเสียงถูกขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) พวกเขาถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการสั่งด้วยเสียงและให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ ลงมือทำงาน หรือควบคุมอุปกรณ์ ผู้ช่วยเสียงได้พัฒนาเทคโนโลยีความเข้าใจในภาษาธรรมชาติ (NLU) พวกเขาสามารถรับรู้สำเนียงที่หลากหลาย ภาษาถิ่น และแม้แต่ภาษาที่แตกต่าง ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานทั่วโลก การพัฒนานี้ได้ให้การเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะสำหรับบุคคลที่มีความสามารถในการพิมพ์และการอ่านที่จำกัด
ในทางหนึ่ง ผู้ช่วยเสียงได้ช่วยเหลือในยุคใหม่ของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต การทำงาน และการสื่อสารด้วยอุปกรณ์ดิจิทัล สิ่งนี้อำนวยความสะดวก การเข้าถึง และความครอบคลุม ในขณะเดียวกันก็มีความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว ความน่าเชื่อถือ และการพึ่งพาอาศัยกัน ผู้ช่วยเสียงถูกใช้งานอย่างเพิ่มขึ้นสำหรับการบริการลูกค้า และการใช้งานทางธุรกิจ หลายๆบริษัท ใช้ผู้ช่วยจำลองที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าอย่างอัตโนมัติ ตอบคำถามทั่วไป และแม้แต่ช่วยเหลือในการซื้อของออนไลน์
ลำโพงอัจฉริยะผู้ช่วยเสียง (AVA) คือตัวอย่างของการใช้งาน AI ด้วยเสียง ซึ่งใช้เทคโนโลยีประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และ การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในประสบการณ์ของผู้ใช้งานและทำให้งานง่ายขึ้น AVA ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม และใช้เสียงกับเทคโนโลยี NLP ที่อ้างอิงจาก machine learning เพื่อสร้างการโต้ตอบแบบใหม่กับแขกโรงแรมและมอบบริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง AVA เป็นโมเดล AI แห่งอนาคต อ้างอิงจาก นวัตกรรม Multi-intent NLU (Natural Language Understanding) และการเรียนรู้เชิงลึกของ NLU ในด้านของ Framework ร่วมถึงการวิเคราะห์เสียงแบบเรียลไทม์ ลดเสียงรบกวน Aiello ยังสร้าง Graph Database (GBD) สำหรับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรม เพื่อการเริ่มต้นโมเดล AI ที่ปรับแต่งได้
อุตสาหกรรมโรงแรมเป็นอุตสาหกรรมที่ AVA เป็นที่รู้จักในฐานะโซลูชั่นที่มีประโยชน์ ในการช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่โรงแรม ลดต้นทุน รับมือกับการขาดแคลนแรงงาน และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
แขกได้รับประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เครื่องผู้ช่วยรับคำสั่งด้วยเสียงอัจฉริยะ AI ถูกออกแบบเพื่อให้แขกได้รับประสบการณ์อันเป็นส่วนตัวและราบรื่น แขกสามารถสั่งการด้วยเสียงเพื่อควบคุมอุณหภูมิห้อง แสงสว่าง สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ บริการรูมเซอร์วิส และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการและสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่น สิ่งนี้มอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายและเพลิดเพลินตลอดการเข้าพักของแขก ซึ่งนำไปสู่คะแนนความพึงพอใจที่สูงขึ้นและความจงรักต่อแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
การปรับปรุงการดำเนินการ
เครื่องผู้ช่วยรับคำสั่งด้วยเสียงอัจฉริยะ AI (AVA) สามารถช่วยโรงแรมในปรับปรุงการดำเนินการโดยทำให้งานกิจวัตรเป็นไปอย่างอัตโนมัติ เช่น คำขอบริการรูมเซอร์วิส การโทรปลุก และคำขอรับการทำความสะอาด สิ่งนี้สามารถทำให้พนักงานมีสมาธิกับงานที่สำคัญมากขึ้น เช่น การให้บริการอันเป็นส่วนตัวแก่แขก นอกจากนี้ เครื่องผู้ช่วยรับคำสั่งด้วยเสียงอัจฉริยะ AI (AVA) สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมและความชอบของแขก ซึ่งสามารถช่วยให้โรงแรมเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการและปรับปรุงบริการได้
การลดต้นทุน
เครื่องผู้ช่วยรับคำสั่งด้วยเสียงอัจฉริยะ AI (AVA) สามารถช่วยโรงแรมลดต้นทุนโดยทำให้งานกิจวัตรเป็นไปอย่างอัตโนมัติและลดความต้องการในการจ้างพนักงาน สิ่งนี้สามารถช่วยให้โรงแรมรับมือกับความขาดแคลนแรงงานและลดต้นทุนการจ้างงาน นอกเหนือจากนี้ เครื่องผู้ช่วยรับคำสั่งด้วยเสียงอัจฉริยะ AI (AVA) ยังสามารถช่วยให้โรงแรมลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยปรับปรุงอุณหภูมิและแสงในห้องพักตามความต้องการของแขก
ปรับปรุงการเข้าถึง
เครื่องผู้ช่วยรับคำสั่งด้วยเสียงอัจฉริยะ AI (AVA) สามารถช่วยโรงแรมปรับปรุงการเข้าถึงแก่แขกที่ทุพพลภาพ แขกที่มีปัญหาด้านการมองเห็นและการเคลื่อนไหวสามารถใช้คำสั่งเสียงเพื่อควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกและขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม สิ่งนี้สามารถสร้างความประทับใจและสภาพแวดล้อมที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นแก่แขกทุกคน
AVA เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมสำหรับโซลูชั่นคำสั่งเสียง AI ที่กำลังผลักดันขอบเขตของ NLP และ machine learning ไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพผู้ใช้และปรับปรุงการดำเนินการในอุตสาหกรรมโรงแรม โดยช่วยให้งานกิจวัตรเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและความชอบของแขก และปรับปรุงการเข้าถึงสำหรับแขกทุกคน