สิ่งลี้ลับต่างๆนั้น เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ผู้คนส่วนใหญ่นั้นก็มีความรู้สึกกังวล และกลัวเรื่องแบบนี้เป็นธรรมดา การพักผ่อนในโรงแรม เหมือนเป็นการพักผ่อนในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ความวิตกกังวลเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า เทียบกับการนอนที่บ้านของตน ทางโรงแรมควรทำให้แขกของตนพักในโรงแรมอย่างสบายใจที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ความเชื่อ นั้นมีบทบาทในชีวิตเป็นอย่างมาก การดำเนินชีวิตต้องมีอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจ เช่น เครื่องรางต่างๆ ไม่ว่าจะเอาไว้กันสิ่งลี้ลับที่เรามองไม่เห็น หรือไว้เพื่อความสบายใจในการใช้ชีวิต และยิ่งขึ้นชื่อว่าโรงแรม มักจะมีคนมาพักอยู่เสมอ เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครมาพักก่อนเราและทำอะไรไว้บ้าง แขกจึงต้องป้องกันตนเองไว้ก่อน… แล้วต้องทำยังไงบ้างล่ะ? ไปดูกันนน
จากความเชื่อของจีน การเคาะประตู 3 ครั้ง ก่อนเข้าห้องพักในโรงแรม เป็นการขออนุญาตเข้าห้อง เผื่อด้านในห้องจะมีสิ่งลี้ลับที่เรามองไม่เห็น หากเดินตรงเข้าห้องเลยอาจเป็นการเสียมารยาท จึงต้องเคาะ แขกบางรายอาจมีการนำเหรียญไปวางไว้บนเตียง หรือขยับเตียงเล็กน้อย เหมือนเป็นการซื้อเตียงจากเจ้าของเก่าอีกด้วย ทางโรงแรมจึงควรที่จะทำความสะอาดห้องพักให้สะอาดที่สุด เมื่อแขกขยับเตียงเล็กน้อย และพบว่าห้องสะอาดแม้กระทั่งจุดที่คนไม่สนใจ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นของแขก ให้กับโรงแรมได้มากขึ้นอีกด้วย
เตียงนอนที่ไม่ควรนอน คือ เตียงนอนที่มีกระจกตรงกับบริเวณที่นอน เพราะเป็นความไม่สมดุลของหยินหยาง สะท้อนสิ่งที่ดีและไม่ดีไปมา แต่เตียงนอนเป็นสถานที่พักผ่อน จึงไม่สมควรมีพลังงานใดๆมารบกวน หากวางกระจกตรงกัน อาจทำให้นอนหลับไม่สนิท หรือฝันร้ายได้ ความจริงคือ การที่มีกระจกบริเวณดังกล่าวทำให้เรามองเห็นตนเองในนั้น หากนอนแล้วเห็นเงาตนเองในกระจกขยับไปมานั้นทำให้สมองไม่หยุดทำงานเวลานอน โรงแรมส่วนใหญ่ จึงจัดให้กระจกอยู่บริเวณมุมอื่นของห้อง ตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งชั่วร้ายที่อาจเกิดขึ้น หรือทำให้แขกได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
การผิวปากตอนกลางคืนเป็นความเชื่อส่วนบุคคลว่า เป็นการเรียกสิ่งลี้ลับบริเวณนั้น หรือเป็นการทำให้สิ่งลี้ลับมีพลังมากขึ้น จึงไม่ควรทำในเวลากลางคืน แต่ความเป็นจริงแล้วคือ การผิวปากเวลากลางคืนอาจส่งผลให้เกิดความรำคาญไปให้คนอื่นได้ โดยเฉพาะโรงแรม มีห้องพักติดๆกันหลายห้อง อาจไปรบกวนห้องข้างๆได้ จึงหลีกเลี่ยงไว้ดีที่สุด ทางโรงแรมบางแห่งมีกฎตั้งไว้ว่า ห้ามส่งเสียงดังหลัง 22.00 น. เพื่อจะได้ไม่เป็นการไปรบกวนแขกท่านอื่น
แน่นอนอยู่แล้วว่า ทุกโรงแรมไม่อยากเสียลูกค้าของตนเอง หากยังมีห้องว่าง แต่ทางโรงแรมไม่ให้เข้าพักนั้นแปลว่า ห้องนั้นไม่ดีพอกับการให้คนเข้าพัก หรืออาจเคยเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในห้องนี้ จึงไม่ควรเข้าพัก ไม่งั้น อาจจะเจอดีได้ เหมือนเรื่องราวของนักร้องดังเมื่อนานมาแล้ว เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าพัก ทางโรงแรมนั้นก็ไม่ควรใจอ่อน อนุญาตให้เข้าพักได้ เมื่อห้องพักไม่พร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยของแขกและทางโรงแรมเอง
คุณเชื่อในเลขอาถรรพ์หรือไม่ ความเชื่อของจีนเชื่อว่า เลข 4 เป็นเลขอัปมงคล เพราะเลขสี่ในภาษาจีนออกเสียงเหมือนคำว่า “ตาย” ในภาษาจีน ตึกส่วนมากเลยข้ามชั้น 4 ไป นอกจากนี้ ยังมีเลข 13 ที่เป็นเลขอัปมงคลใน ความเชื่อของทางตะวันตก อีกด้วย หรือจากความเชื่อของไทย เมื่อเอียงเลข 13 จะปรากฏคำว่า “ผี” ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องดี ในหลายประเทศจึงไม่มีชั้น 13 หรือบางแห่งไม่มีทั้งชั้น 4 และชั้น 13 แขกบางท่านไม่ยอมเข้าพัก เพราะเชื่อในเรื่องลี้ลับเหล้านี้ หากห้องของตนอยู่ชั้นดังกล่าว ทางโรงแรมควรเข้าใจ และแก้ไขปัญหาให้แขก เพื่อความสบายใจในการเข้าพัก
เมื่อแขกที่เข้าพักเช็คเอาท์ออกไปแล้ว ไม่ควรเข้าไปทำความสะอาดห้องทันที เพราะเชื่อว่า หากเข้าไปกวาดห้องทันทีนั้น เป็นเหมือนการปัดไล่แขก และแขกที่เข้าพักในห้องนั้นจะไม่กลับมาพักอีก นอกจากนี้ เมื่อทำการเก็บไม้กวาด ต้องเอาหัวไม้กวาดตั้งขึ้น เพราะถ้าคว่ำลงนั้น อาจทำให้เกิดโชคร้ายได้ ความเป็นจริงนั้นคือ แขกในห้องพักอาจลืมสิ่งของมีค่าทิ้งไว้ในห้อง และอาจกลับมาเอาโดยที่สิ่งของนั้นยังอยู่ที่เดิม และเพื่อไม่ให้เป็นการรับผิดชอบของโรงแรม หากทรัพย์สินของแขกสูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น
เมื่อได้ห้องพักแบบ เตียงเดี่ยวสองเตียง แต่ว่านอนคนเดียว ควรนำของอย่างอื่นมาวางอีกเตียงหนึ่งให้เต็ม ให้เหมือนมีคนใช้เตียงนั้นด้วย เพราะไม่เช่นนั้น อาจมีสิ่งที่มองไม่เห็นมานอนด้วยก็เป็นได้ ดังนั้น หากแขกที่เดินทางคนเดียวมีประสงค์อยากเข้าพักในโรงแรม โดยส่วนใหญ่จะต้องการนอนในห้องที่มี 1 เตียงเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีทางเลือก แขกก็จะทำตามที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อความสบายใจ
เริ่มตั้งแต่การจัดวางของภายในห้อง การจัดหัวเตียงไปทาง “ทิศตะวันตก” นั้น โบราญว่าไว้ว่า เป็นทิศแห่งความตาย ไม่ควรหันหัวไปทางนั้น เพราะอาจฝันร้ายได้ แต่ความจริงแล้วคือ ทิศตะวันตกนั้น จะรับแสงแดดยามบ่ายเต็มๆ และกำแพงนั้นจะเก็บความร้อนไว้ และระบายความร้อนออกตอนกลางคืน และประเทศไทยของเราร้อนแบบสุดใจ นอนไม่สบายอย่างแน่นอน ทางโรงแรมต้องใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ด้วย
เรื่องนี้นับเป็นเคล็ดที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันเท่าไหร่แล้ว โบราณว่าไว้ หากวางรองเท้าไว้แบบมีระเบียบ จะมีผีมาลองใส่เล่น ซึ่งความจริงคือ แขกไม่ได้รับเชิญนั้น หมายถึง สัตว์อันตรายที่จะมาหาความอบอุ่นจากในรองเท้า การวางไว้สลับข้าง เพื่อจะได้ยกรองเท้าขึ้นมาตรวจสอบก่อนใส่ แต่เพราะสมัยนี้มีห้องพักที่ปิดมิดชิด ไม่มีสัตว์อันตรายที่จะเข้ามาทำร้ายได้ จึงไม่ค่อยมีใครทำแล้ว
เรื่องนี้จะไม่ค่อยพบเห็นในโรงแรม เพราะความส่วนตัวของผู้เข้าพัก ทุกท่านจะวางรองเท้าไว้ในห้องของตน แต่จะสามารถพบเห็นได้ตาม โฮสเทล เพราะต้องวางรองเท้าไว้รวมกัน แต่ในปัจจุบัน ความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาเป็นอันดับหนึ่ง การวางรองเท้ากลับหัวกลับหางอาจดูไม่น่ามองเท่าวางอย่างเป็นระเบียบอย่างแน่นอน
สิ่งลี้ลับกลัวแสงสว่าง เมื่อเข้าไปในห้องพักแล้วควรเปิดไฟให้ครบทุกดวง เมื่อเข้าไปในห้องเป็นครั้งแรก ความเชื่อบอกว่า เป็นการบอกเจ้าที่เจ้าทาง หรือผู้ที่เรามองไม่เห็นในห้อง ว่าจะมีคนใหม่มาพักในห้องนะ แต่ความจริงแล้วคือ เป็นการตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆภายในห้อง ว่าใช้การได้ดีตั้งแต่แรกหรือไม่ หากมีปัญหา จะได้เปลี่ยนห้อง แต่ทางโรงแรมตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นระบบเสียบการ์ดเพื่อเริ่มใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในห้อง เมื่อเสียบการ์ดแล้ว ไฟทุกดวง เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเดินเปิดไฟเหมือนสมัยก่อน ซึ่งทันสมัย และประหยัดไฟอีกด้วย
จากที่เล่าขานกันมา ผีกลัวความสว่าง ดังนั้นเวลากลางคืน จะเป็นเวลาอิสระของเหล่าสิ่งลี้ลับ ยิ่งเด็กๆเล่นซ่อนแอบ นั้นต้องไปหาที่ซ่อนลับตาคน ซึ่งอาจเป็นสถานที่ที่ไม่ควรไป และความเชื่อ “ผีบังตา” หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจออาจเกิดขึ้นได้ และจะเป็นเรื่องใหญ่โตในการให้คนอื่นมาช่วยหา หากหาไม่พบ ความจริงแล้วคือ เป็นการทำให้เด็กๆไม่ไปเล่นที่ไหนไกลยามค่ำคืน เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ การเล่นซ่อนแอบดูไม่รบกวนใคร แต่ความจริงนั้นเสียงดังมาก ดังนั้นเมื่อเป็นการไม่ไปรบกวนคนบริเวณนั้น ก็ไม่ควรเล่น โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่ทุกคนต้องการพักผ่อน ไม่ควรไปรบกวน เห็นได้จากบางที่พัก หรือโรงแรม มีการแจ้งเตือนว่า ห้ามส่งเสียงดังหลัง 22.00 น. เพราะเป็นเวลาพักผ่อน และมีบางที่ที่มีการจำกัดอายุเด็กที่จะมาเข้าพัก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเสียงกวนใจไปรบกวนแขกท่านอื่นที่มาพัก ซึ่งเป็นความคิดที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
แล้วคุณล่ะ เชื่อใน “สื่งลี้ลับ” หรือไม่?
การที่จะเป็น “โรงแรมปลอดภัยไร้ผี” นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องเริ่มตั้งแต่โครงสร้างของโรงแรมเลยเอ๊ะ… ไม่ยากจริงหรือ ทุกสิ่งเป็นไปได้ หมั่นดูแลที่พักให้ดูใหม่และน่าอยู่ตลอดเวลา เพื่อความสบายใจของแขกให้เห็นโรงแรมเป็นครั้งแรกแล้วไม่รู้สึกวังเวง หมั่นทำบุญ ไหว้ศาลพระภูมิก่อนเข้าพัก หรือทางโรงแรมควรทำบุญ เลี้ยงพระอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีเกราะป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่จะเข้ามารบกวนแขกที่เราเคารพรักได้
นอกเหนือจากนี้ การบริการในโรงแรมจะพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ เมื่อได้ผสานรวมกับเทคโนโลยี ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูทันสมัย และไม่รู้สึกวังเวงใจ อีกทั้งยังทำให้ได้ทราบข้อมูลต่างๆของโรงแรม และใช้บริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องติดต่อพนักงานโดยตรงอีกด้วย
ติดตาม Facebook: Aiello.AI Thailand และ Instagram @aiello_incth เพื่อติดตามสาระดีๆอย่างนี้ต่อไป
หรือติดต่อเพื่อทดลองใช้ผู้ช่วยระบบคำสั่งเสียง Aiello (AVA) ได้ ที่นี่
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI ผู้ช่วยคำสั่งเสียงอัจฉริยะ ส่งอีเมลมาหาเราได้เลยที่ enquiry@aiello.ai ให้ Aiello ดูแลคุณ!
สนใจใน AI โซลูชันของเรา? โปรดติดต่อเราเพื่อนัดเวลาในการทดลองใช้งานฟรี