October 23, 2025

คู่มือ AI คอลเซนเตอร์สำหรับโรงแรม: ให้ AI ช่วยรับสายแทน 70%

Building the right tech stack is key

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit lobortis arcu enim urna adipiscing praesent velit viverra sit semper lorem eu cursus vel hendrerit elementum morbi curabitur etiam nibh justo, lorem aliquet donec sed sit mi dignissim at ante massa mattis.

  1. Neque sodales ut etiam sit amet nisl purus non tellus orci ac auctor
  2. Adipiscing elit ut aliquam purus sit amet viverra suspendisse potent
  3. Mauris commodo quis imperdiet massa tincidunt nunc pulvinar
  4. Excepteur sint occaecat cupidatat non proident sunt in culpa qui officia

How to choose the right tech stack for your company?

Vitae congue eu consequat ac felis placerat vestibulum lectus mauris ultrices cursus sit amet dictum sit amet justo donec enim diam porttitor lacus luctus accumsan tortor posuere praesent tristique magna sit amet purus gravida quis blandit turpis.

Odio facilisis mauris sit amet massa vitae tortor.

What to consider when choosing the right tech stack?

At risus viverra adipiscing at in tellus integer feugiat nisl pretium fusce id velit ut tortor sagittis orci a scelerisque purus semper eget at lectus urna duis convallis. porta nibh venenatis cras sed felis eget neque laoreet suspendisse interdum consectetur libero nisl donec pretium vulputate sapien nec sagittis aliquam nunc lobortis mattis aliquam faucibus purus in.

  • Neque sodales ut etiam sit amet nisl purus non tellus orci ac auctor
  • Adipiscing elit ut aliquam purus sit amet viverra suspendisse potenti
  • Mauris commodo quis imperdiet massa tincidunt nunc pulvinar
  • Adipiscing elit ut aliquam purus sit amet viverra suspendisse potenti
What are the most relevant factors to consider?

Nisi quis eleifend quam adipiscing vitae aliquet bibendum enim facilisis gravida neque. Velit euismod in pellentesque massa placerat volutpat lacus laoreet non curabitur gravida odio aenean sed adipiscing diam donec adipiscing tristique risus. amet est placerat in egestas erat imperdiet sed euismod nisi.

“Nisi quis eleifend quam adipiscing vitae aliquet bibendum enim facilisis gravida neque velit in pellentesque”
What tech stack do we use at Techly X?

Eget lorem dolor sed viverra ipsum nunc aliquet bibendum felis donec et odio pellentesque diam volutpat commodo sed egestas aliquam sem fringilla ut morbi tincidunt augue interdum velit euismod eu tincidunt tortor aliquam nulla facilisi aenean sed adipiscing diam donec adipiscing ut lectus arcu bibendum at varius vel pharetra nibh venenatis cras sed felis eget.

โทรศัพท์ดังอยู่ตลอด แต่ไม่ใช่ทุกสายที่ต้องใช้มนุษย์รับ

Wyndham Hotels & Resorts ต้องรับสายโทรศัพท์จากแขกทุกวันโดยนับไม่ถ้วน เพราะต้องการโทรมายืนยันการจองของตนเอง

“แขกจำนวนมากโทรมาเพื่อยืนยันการจองนับพันสายต่อวัน เพราะต้องการมั่นใจว่าการจองยังคงอยู่” Josh Dow รองประธานฝ่ายกลยุทธ์และบริการเทคโนโลยีของโรงแรมได้กล่าวไว้ (ที่มา)

“หลายองค์กรเผชิญปัญหาขาดแคลนพนักงานคอลเซนนเตอร์ และต้องการควบคุมค่าแรงซึ่งอาจสูงถึง 95% ของต้นทุนศูนย์บริการลูกค้า AI ด้านการสนทนาช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมยกระดับประสบการณ์ลูกค้า” กล่าวโดย Daniel O’Connell รองประธานนักวิเคราะห์จาก Gartner (ที่มา)

สิ่งที่เราเห็นจากเครือโรงแรมห้าดาว (และสิ่งที่คุณอาจต้องเจอ)

เราลองนั่งกางข้อมูลวิเคราะห์สถิติจากเครือโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งและพบว่า มีสายโทรศัพท์เฉลี่ยวันละ 200 สาย และพวกเขายึดกฎง่าย ๆ คือห้ามปล่อยให้โทรศัพท์ดังเกินน 3 ครั้ง แรงกดดันที่เกิดขึ้นกับแผนกต้อนรับจึงสูงมาก ทุกนาที ทุกเสียงกริ่ง มีความหมายเสมอ

เมื่อเราแท็กการโทรแต่ละสายตาม “เจตนา” ก็พบรูปแบบที่ชัดเจน:

59% สอบถามข้อมูลบริการ

เช่น เวลาเปิด-ปิด สิ่งอำนวยความสะดวก ประเภทห้อง สิ่งที่มีให้บริการ ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงข้อเท็จจริงที่ทวนซ้ำได้ เหมาะกับ AI

16.6% คำขอส่งของ

เช่น “ขอเพิ่มผ้าเช็ดตัว น้ำดื่ม เตียงเด็ก” ซึ่งระบบสามารถสร้างรายการงานอัตโนมัติและติดตามได้ครบวงจร

1.8% ทำความสะอาดห้อง

คำขอถึงแม่บ้านที่ตรงไปตรงมา ซึ่ง AI สามารถบันทึกและส่งต่อได้

เมื่อรวมประเภทข้างต้นทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 77% ของสายโทรศัพท์เป็นประเภทงานที่พบบ่อย หรือราว 3 ใน 4 ที่สามารถให้เอเจนต์ AI จัดการได้ก่อนที่พนักงานจริงจะต้องรับสาย เพื่อช่วยลดภาระ เราได้นำเอเจนต์ AI เข้ามาในคอลเซนนเตอร์ ซึ่งสามารถตอบคำถามประจำได้ทันที และโอนสายที่ต้องการการดูแลจากมนุษย์จริง ๆ เช่น ข้อร้องเรียนหรือคำขอพิเศษ

5.31% ข้อร้องเรียน  

สายโทรเหล่านี้จำเป็นต้องให้พนักงานมนุษย์จัดการอย่างระมัดระวัง ต้องอาศัยความเข้าใจบริบท ความเห็นอกเห็นใจ และการประสานงานในสถานที่จริงอยู่บ่อยครั้ง หน้าที่ของ AI ในกรณีนี้คือการตรวจจับอารมณ์ให้ได้อย่างรวดเร็ว เก็บรายละเอียดอย่างครบถ้วน และโอนสายต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสมพร้อมข้อมูลประกอบครบถ้วน

เมื่อพิจารณาว่าประมาณ 75% ของสายโทรเข้าจัดการโดยอัตโนมัติได้ ความสำเร็จจึงขึ้นอยู่กับการทำสิ่งพื้นฐานไม่กี่ข้อให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่ม เริ่มจาก 5 ข้อนี้

5 ข้อสำคัญที่ต้องทำเพื่อเริ่มใช้งานให้เวิร์ก  

1) สร้างฐานความรู้ที่มีชีวิต (Living Knowledge Base หรือ “แหล่งข้อมูลจริงเพียงหนึ่งเดียว”)

ถ้าหากถามว่าในบรรดาสิ่งสำคัญสิ่งใดสำคัญที่สุด ก็ต้องเริ่มจากตรงนี้ เพราะ AI ของคุณจะตอบได้ดีเท่ากับคุณภาพของฐานความรู้ (KB) ที่คุณเขียนไว้เท่านั้น

  • เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว: บันทึกการโทรที่ผ่านมา, FAQ, SOP, นโยบายราคา/ค่าธรรมเนียม, กฎการใช้สิ่งอำนวยความสะดวก, ข้อมูลเส้นทาง/การเดินทาง, หมายเหตุประจำฤดูกาล และลบข้อมูลส่วนบุคคล (PII) ออก
  • เขียนให้เหมือนแขกพูดจริง: เพิ่มคำไวพจน์และคำที่ใช้ในท้องถิ่น (เช่น “เตียง = ที่นอน”, “ไดร์ = ไดร์เป่าผม”) ใช้ Q&A สั้น ๆ ดีกว่าข้อความยาว ๆ
  • โครงสร้างสำคัญมาก: จัดทำเป็นหน้าต่อหัวข้อ ตั้งชื่อชัดเจน ระบุวันหมดอายุและผู้รับผิดชอบ เพิ่ม “ข้อยกเว้น” เช่นเส้นแบ่งบริการ VIP หรือ วันสิ้นสุดให้บริการบางชนิด เพื่อไม่ให้คำตอบเกินจริง
  • รองรับหลายภาษาตั้งแต่วันแรก: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาษาที่ใช้บ่อยที่สุดถูกแมปเข้ากับเจตนาเดียวกัน
  • ใช้ RAG ก่อนการปรับแต่ง (fine-tune): ใช้ RAG (retrieval-augmented generation) เพื่อให้อัปเดตข้อมูลได้ทันที (เช่น เวลาเปิดสระใหม่, ค่าธรรมเนียม, โปรโมชั่น) ลดความเสี่ยงที่ AI จะ “แต่งคำตอบขึ้นมา” แล้วค่อยปรับ fine-tune ภายหลังเพื่อโทนเสียงหรือกรณีเฉพาะ
  • การกำกับดูแล: แต่งตั้งผู้ดูแลระบบและข้อมูล AI เก็บบันทึกการเปลี่ยนแปลง และทบทวนทุกสัปดาห์ในช่วงนำร่อง

ตัวอย่างการใช้งานกับโรงแรม

หากคุณเปลี่ยนนโยบายเช็กเอาต์เกินเวลาหรือเวลาอาหารเช้า เพียงอัปเดตในฐานความรู้ (KB) ระบบ RAG จะอ่านและแสดงคำตอบใหม่ได้ทันที

หากคุณต้องการให้บอตมีโทนเสียงที่ สงบและพรีเมียมมากขึ้น หรือให้บอตยืนยันหมายเลขห้อง ทุกครั้งก่อนทำรายการขอผ้าเช็ดตัว ก็สามารถปรับแต่งได้หลังจากที่ฐานความรู้มีความเสถียรแล้ว

2) ปรับโทนเสียงให้สอดคล้องกับแบรนด์ (เป็นมิตร ไม่ใช่ “ลดต้นทุน”)

แขกไม่ควรรู้สึกว่าคุณเปลี่ยนจากพนักงานจริงมาเป็น AI เพียงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

  • คู่มือโทนเสียง: กำหนดคุณลักษณะ 3 ข้อ เช่น “อบอุ่น กระชับ มั่นใจ” ระบุคำพูดที่ห้ามใช้ และแนวทางการขอโทษ/การขอบคุณ
  • สคริปต์สั้น ๆ ที่ฟังดูเป็นมนุษย์: เช่น “สวัสดีค่ะ/ครับ ฉันคือผู้ช่วยของโรงแรม ยินดีช่วยเหลือคุณได้ทันที หรือจะโอนต่อให้เจ้าหน้าที่ก็ได้”
  • มารยาทในการโอนสาย: ต้องมีทางเลือกที่ชัดเจนในการขอคุยกับเจ้าหน้าที่ (“ขอติดต่อเจ้าหน้าที่”) และการโอนสายแบบ warm transfer พร้อมบริบทเบื้องต้นครบถ้วน เพื่อไม่ให้พนักงานต้องถามคำถามพื้นฐานซ้ำอีก

3) ตอบสนองให้รวดเร็ว (พูดคำแรกภายใน ~2 วินาที)

ความรวดเร็วคือประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งในธุรกิจบริการ ตั้งเป้าให้ระบบสามารถตอบกลับครั้งแรกได้ภายใน 2 วินาที

สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง:  

การตรวจจับเสียงพูด → ASR (แปลงเสียงเป็นข้อความ) → ค้นหาเจตนา/ฐานความรู้ → TTS (สร้างเสียงตอบกลับ) → สร้างรายการงานหรือโอนสาย (ถ้ามี)

วิธีลดความหน่วง:

  • ทำให้ข้อความกระตุ้น (prompt) กระชับ และเก็บคำถามที่พบบ่อยไว้ในฐานข้อมูลแคชพร้อมดึงใช้ซ้ำ
  • อุ่นโมเดลล่วงหน้า (pre-warm) และรักษาเซสชันให้ “พร้อมใช้งาน” อยู่เสมอ
  • ปรับการตรวจจับจุดสิ้นสุดประโยค เพื่อไม่ให้บอตรอนานเกินไปหลังผู้ใช้พูดจบ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเส้นทางเสียง (audio path) บน PBX/SIP สะอาดและชัดเจน

ข้อแลกเปลี่ยน:

  • หากตรวจสอบความปลอดภัยมากขึ้น = การตอบสนองก็จะช้าลง
  • หากทำให้ตอบกลับเร็วมาก = เสี่ยงต่อการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม
  • สิ่งสำคัญคือการค้นหาจุดสมดุลที่เหมาะสมในช่วงทดสอบนำร่อง

4) พิสูจน์ ROI ด้วยตัวชี้วัดที่ถูกต้อง (ไม่ใช่แค่ “ฟังดูดี”)

เลือกตัวเลขที่คุณสามารถนำไปนำเสนอและอธิบายได้ในการประชุมรายไตรมาส

  • ความครอบคลุม: เปอร์เซ็นต์ของสายที่ AI จัดการได้โดยไม่ต้องใช้คน (เป้าหมาย 60–75%, ตั้งเป้า 70%)
  • เวลาที่ประหยัดได้: (จำนวนสายที่ AI จัดการ × เวลาที่พนักงานใช้เฉลี่ยต่อสาย)
  • เวลารอสาย / อัตราการวางสาย: ควรลดลงเพราะ AI ตอบได้ทันที
  • FCR / CSAT (หรือ Voice NPS): คำขอพิเศษถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ถูกปัดทิ้ง
  • ชั่วโมงการทำงานที่จัดสรรใหม่: ย้ายพนักงานจากการรับโทรศัพท์ไปดูแลแขกที่ล็อบบี้แทน

การตั้งเป้าแบบง่าย ๆ: “ให้ AI จัดการ ~70% ของประเภทงานที่ต้องจัดการบ่อย  ส่วนพนักงานเน้นไปที่แขก VIP และเคสซับซ้อน”

ตัวอย่างการคำนวณแบบเร็ว ๆ : 200 สาย/วัน × 75% × 90 วินาทีต่อสาย = 3.75 ชั่วโมง/วัน ที่ประหยัดได้ → ประมาณ 112.5 ชั่วโมง/เดือน หรือนับเป็นประมาณ 171 กะงาน 8 ชั่วโมง/ปี ที่สามารถนำไปใช้กับการบริการแขกโดยตรง

5) ฝึกและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (นี่คือ “โปรแกรม” ไม่ใช่ “โปรเจกต์”)

AI ที่ไม่เรียนรู้จะค่อย ๆ เสื่อมประสิทธิภาพไปตามเวลา

  • รอบการทำงานรายสัปดาห์: ทบทวนสายที่ถูกส่งต่อ 20–50 สาย เพิ่ม FAQ ที่ขาด ปรับถ้อยคำให้กระชับ และอัปเดตหัวข้อที่ติดขัด
  • ตามฤดูกาล: เตรียมข้อมูลล่วงหน้า เช่น กิจกรรมวันหยุด การปิดสระเพื่อบำรุงรักษา หรือร้านอาหารชั่วคราว
  • การตรวจสอบคุณภาพ: ตรวจสอบตัวอย่างบทสนทนาแบบสุ่ม ติดตามการจดจำผิดพลาด และทดสอบคำตอบแบบ A/B
  • ข้อเสนอแนะจากพนักงาน: ให้เจ้าหน้าที่กดปุ่มเพียงครั้งเดียวเพื่อรายงานคำตอบที่ไม่ถูกต้อง และทำให้การแก้ไขปรากฏในบันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • การปรับปรุงรายไตรมาส: รีเฟรชเจตนา ยกเลิกนโยบายที่ล้าสมัย ประเมินกฎเกณฑ์และโทนเสียงของแบรนด์ใหม่

เคล็ดลับหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย

  • อย่าโยน SOP 50 หน้าใส่บอต ให้แตกออกเป็น Q&A สั้น ๆ
  • อย่าเปิดตัวระบบโดยไม่มีทางเลือกง่าย ๆ ในการโอนสายไปหาคนจริง
  • อย่าสอดไส้บอต ให้แนะนำอย่างตรงไปตรงมาและให้แขกเป็นผู้เลือก
  • อย่าลืมประเด็นความหลากหลายทางภาษา การสนทนาที่ใช้หลายภาษาปะปนกันเป็นเรื่องปกติ

วางแผนอนาคตโรงแรมของคุณในอีก 5 ปีข้างหน้า พูดคุยกับเราได้เลย