7 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมการบริการให้ดียิ่งขึ้นในปี 2024

Technology Trends That Will Define the Hospitality Industry

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังก้าวเข้าไปในโรงแรมมาริน่าเบย์แซนด์และคุณเช็คอินเข้าพักได้อย่างง่ายดายด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า 

หรือในขณะที่คุณเข้าพักที่โรงแรมเอ็มโซเชียลสิงคโปร์ บริการรูมเซอร์วิสที่คุณได้สั่งการผ่านแอพพลิเคชั่นถูกจัดส่งอย่างทันถ่วงทีด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะ

หุ่นยนต์ดิลิเวอรี่ ณ โรงแรมมิลเลนเนียม โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท
หุ่นยนต์ดิลิเวอรี่ ณ โรงแรมมิลเลนเนียม โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท 

สิ่งเหล่านี้อาจฟังดูไม่น่าเชื่อหากเมื่อย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน แต่อุตสาหกรรมโรงแรมในปัจจุบันได้ปฏิวัตินำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเพื่อเพิ่มสิทธิประภาพในการให้บริการ และก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เทคโนโลยีได้เปลี่ยนทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมโรงแรมและกำหนดทิศทางการดำเนินการและให้บริการแขกผู้เข้าพักในหลาย ๆ วิธี 

ในเอเชียแปซิฟิค การนำเข้ามาของเทคโนโลยีนั่นเกิดขึ้นรวดเร็วมากๆ เช่น ประเทศสิงคโปร์ที่ค่าจ้างแรงงานสูงและการขาดแคลนแรงงานอยู่บ่อยครั้ง การสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเมื่อมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการนำมาใช้อย่างเพิ่มขึ้น 

ในปี 2024 นี้ เราจะได้เห็นเทรนด์เทคโนโลยีหลากหลายที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโรงแรมอย่างต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาการพักอาศัยของแขก 

ผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงระบบ AI 

ผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงระบบ AI กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมโรงแรม อุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยแขกผู้เข้าพักได้ทุกอย่างตั้งแต่การขอรับบริการรูมเซอร์วิสจนถึงการนัดหมายทำสปา ผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงระบบ AI สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในห้อง ปรับแสงสว่าง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อุปกรณ์นี้ยังสามารถให้คำแนะนำส่วนบุคคลแก่แขกผู้เข้าพัก จากความชอบและพฤติกรรมช่วงเวลาเข้าพักของแขก ด้วยการทำงานร่วมกับผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงระบบ AI โรงแรมสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินการและการให้บริการแก่แขกได้ดียิ่งขึ้น 

เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (VR) 

เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (VR) เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากอุตสาหกรรมโรงแรม VR สามารถให้บริการแก่แขกด้วยการพาชมโรงแรมเสมือนจริง และยังสามารถแสดงสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆให้แขกได้เห็น การนำ VR ที่เหมาะสมและสร้างสรรค์มาให้บริการ สามารถช่วยดึงดูดแขกให้เข้าพักได้มากขึ้นและให้ประสบการณ์ที่สุดพิเศษอีกด้วย   

ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมแมริออทท์ได้จัดแสดงพาชมห้องพักด้วยเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (VR) ภายใต้ชื่อ “VR รูมเซอร์วิส” ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 แขกในโรงแรมแมริออทสองแห่งในลอนดอนและนิวยอร์กจะได้รับชุดหูฟังในห้องพัก ซึ่งบรรจุ “โปสการ์ด VR” ไว้ล่วงหน้าเพื่อแสดงประสบการณ์การเดินทางที่สร้างสรรค์จากรวันดา จีน และชิลี 

Internet of Things (IoT) 

IoT หรือที่เราเรียกว่าอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ได้มีมาสักพักหนึ่งแล้ว เครือข่ายเหล่านี้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายชนิดในเวลาเดียวกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่แขกของโรงแรมด้วยระบบการทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น การเปิดปิดไฟและการปรับอุณหภูมิห้อง 

IoT ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงแรมได้มากขึ้นโดยคาดเดาการซ่อมบำรุงด้วยตนเอง เช่น หากเครื่องปรับอากาศภายในห้องพักไม่ทำงาน IoT จะส่งสัญญาณเตือนไปยังพนักงานซ่อมบำรุงของโรงแรมในขณะที่แขกไม่อยู่ในห้อง ปัญหานี้จะถูกแก้ไขก่อนที่แขกจะกลับเข้ามา ระบบการคาดเดาการซ่อมบำรุงนี้ยังสามารถช่วยให้ทีมซ่อมบำรุงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจัดตารางการบำรุงรักษาตามการใช้งานจริง ไม่ใช่กำหนดโดยประมาณ เช่น การเปลี่ยนแบตเตอรี่และตัวกรองอากาศ 

การเข้าใช้ระบบกุญแจไร้สายผ่านมือถือ 

การเข้าใช้ระบบกุญแจไร้สายผ่านมือถือถือ เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมโรงแรม หรือที่เรียกว่ากุญแจดิจิทัล ซึ่งอนุญาตให้แขกใช้สมาร์ทโฟนของตนเองเป็นกุญแจเข้าห้องพักได้ และเปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 เมื่อกลุ่มโรงแรม IHG ทดลองใช้เวอร์ชันแรก ๆ ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์หลายแห่ง น่าเสียดายที่เทคโนโลยีนี้เร็วเกินไปและไม่เสถียรในตอนนั้น ทำให้เป็นปัญหาของผู้เข้าพักมากกว่าความสะดวกสบาย 

ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การเข้าใช้ระบบกุญแจไร้สายผ่านมือถือถือไม่ถือว่าเป็นเทคโนโลยี “ทดลอง” หรือ “ระยะเริ่มต้น” อีกต่อไป แขกมีความต้องการที่จะใช้สมาร์ทโฟนของตนเองในการควบคุมสภาพแวดล้อมของตนเองมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงห้องพัก และความสามารถของโรงแรมในการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยมีมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดภาระงานของพนักงานต้อนรับ และลดค่าใช้จ่ายของคีย์การ์ดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ทำให้การตัดสินใจเลือกใช้ระบบ “ไร้กุญแจ” เป็นทางเลือกที่ชัดเจน 

กระจกอัจฉริยะ 

กระจกอัจฉริยะเป็นเทคโนโลยีเหนือระดับของ IoT เป็นแพลตฟอร์มให้สาระและความบันเทิง ช่วยให้แขกสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เช่น พยากรณ์อากาศ ข่าวสาร และปฏิทินกิจกรรม นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นระบบความบันเทิงเพื่อให้แขกสามารถเข้าถึงภาพยนตร์ เพลง และตัวเลือกความบันเทิงอื่นๆ 

หุ่นยนต์ 

หุ่นยนต์กำลังเป็นเทคโนโลยีที่นิยมท่ามกลางอุตสาหกรรมโรงแรม เพราะเทคโนโลยีนี้กำลังมีการปรับปรุงพัฒนายิ่งขึ้นเรื่อยๆ หุ่นยนต์สามารถใช้งานได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการให้บริการไร้การสัมผัส มันสามารถใช้ในการต้อนรับแขกที่มาถึงและให้บริการข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด หุ่นยนต์ของโรงแรมมีศักยภาพในการช่วยทำความสะอาดและจัดเก็บได้อีกด้วย เช่น การดูดฝุ่น การจัดเก็บสัมภาระสำหรับแขก หุ่นยนต์เป็นเทคโนโลยีที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป เนื่องจากหุ่นยนต์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นและมีความพร้อมมากขึ้นในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ผ่านปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องจักรกล 

เทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) 

เทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพของโรงแรมโดยใช้การผสมผสานระหว่างภาพเคลื่อนไหว กราฟิก เสียง ฯลฯ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่ใช้อินเทอร์เน็ต โรงแรมสามารถใช้ AR เพื่อนำเสนอองค์ประกอบแบบโต้ตอบภายในโรงแรม (เช่น แผนที่และสถานที่ที่น่าสนใจ) ให้ประวัติของสถานที่ให้บริการในรูปแบบดิจิทัล และให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่แขกเมื่ออยู่ภายในพื้นที่ของโรงแรม 

ตัวอย่างเช่น โรงแรมเดอะฮับ ในสหภาพอังกฤษใช้เทคโนโลยี AR เพื่อให้บริการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ที่น่าสนใจแก่แขก โดยนำมือถือของตนเองส่องไปที่แผนที่ติดผนัง แขกก็จะสามารถเห็นเนื้อหา AR เกี่ยวกับร้านอาหาร ร้านค้า และแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง 

นี่คือเทรนด์เทคโนโลยีที่น่าสนใจ ที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นในอุตสาหกรรมโรงแรมในปี 2024 โดยการนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาใช้ โรงแรมก็จะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และให้บริการแก่แขกได้ดียิ่งขึ้น 

One thought on “7 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมการบริการให้ดียิ่งขึ้นในปี 2024

  1. Pingback: 5 กุญแจสำคัญที่จะปฏิรูปอนาคตการโรงแรมและการท่องเที่ยว | Aiello

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *