เนื่องจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอยู่เสมอมา ทั้งในด้านของการพัฒนา การนำมาใช้งานและด้านต่างๆ ทำให้ผู้พัฒนา AI และผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆมีโอกาสทางธุรกิจสูงขึ้น แม้ในด้านของเทคโนโลยีภาษาธรรมชาติ (Natural Language Technology, NLT) จะมีเกณฑ์ทางเทคนิคสำหรับการเข้าใจภาษาธรรมชาติที่ค่อนข้างสูงก็ตาม อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีภาษาธรรมชาตินั้นสามารถรองรับแอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆได้มากมาย ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Amazon และบริษัทอื่นๆ ก็กำลังทุ่มทุนในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยีนี้ โดยคาดหวังว่าจะสามารถปรับปรุงความแม่นยำในการทำความเข้าใจของ AI ได้
Aiello ก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2561 โดยทีมสตาร์ทอัพจากไต้หวัน เป็นหนึ่งในทีมสตาร์ทอัพเพียงไม่กี่ทีมในเอเชียที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเทคโนโลยีภาษาธรรมชาติ โดยแบ่งเป็น 2 ธุรกิจใหญ่ๆ ธุรกิจแรกคือ Aiello Voice Assistant (AVA) ผู้ช่วยด้วยเสียงอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรมโดยเฉพาะ และอีกธุรกิจนึงคือการมอบโซลูชันทางการให้บริการด้วย AI สนทนา (Conversational AI) โดยมีความสามารถครอบคลุมในการใช้งาน ณ สถานการณ์ต่างๆ เช่น การรักษาพยาบาล การเงิน การผลิต การขายปลีก และอื่นๆอีกมากมาย เป็นต้น
Vic Shen ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Aiello Inc. เคยได้ทำงานที่ Google และเคยเข้าร่วมทีมพัฒนา Google Home และ Google Assistant ขณะที่เขาได้ทำให้อยู่ที่นั่น Vic Shen ได้กล่าวว่า แม้ตอนนี้ภาษาธรรมชาติ, GPT-3, BERT และเทคโนโลยี AI ต่างๆ ยังคงใช้โครงสร้างภาษาอังกฤษเป็นหลักอยู่ แต่เขาได้เห็นศักยภาพการเติบโตของเทคโนโลยีภาษาธรรมชาติและเพิ่มการพัฒนา Machine learning, Cloud และ Open Source โดยคาดหวังว่าด้วยการจัดตั้ง Aiello ขึ้นมานั้น จะสามารถช่วยให้อุตสาหกรรมและผู้ประกอบการต่างๆ สามารถเข้าถึงการใช้งานเทคโนโลยีการเข้าใจภาษาธรรมชาติ (Natural Language Understanding, NLU) ได้มากยิ่งขึ้น
Vic Shen ได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เทคโนโลยีการเข้าใจภาษาธรรมชาติ (NLU) เป็นส่วนที่ยากที่สุดของวงการ AI ในทศวรรษที่ผ่านมา แม้ว่าผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ Motorola และ Ericsson จะลงทุนในการวิจัยมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม เมื่อก่อนนั้น มีการใช้งานโดยการหาคีย์เวิร์ดหรือใจความสำคัญของข้อความเป็นเกณฑ์หลัก แต่วิธีการนี้ไม่สามารถครอบคลุมความต้องการหรือเจตนาของมนุษย์ได้อย่างครอบคลุม และไม่สามารถเข้าใจจุดประสงค์ในการค้นหาของพวกเขาได้ ดังนั้นจึงทำให้การพัฒนาความเข้าใจภาษาธรรมชาติหยุดชะงักลง จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เทคโนโลยี AI ทั่วโลกมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ เนื่องจากความเชี่ยวชาญระดับสูงของข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างทางรูปภาพและภาษาที่ได้นำมาใช้งาน
สำหรับข้อมูลที่มีโครงสร้างและข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง Vic Shen ได้อธิบายไว้ว่า ข้อมูลที่มีโครงสร้างก็เหมือนกับ excel ธรรมดาทั่วไป กรอกเนื้อหาชัดเจนในรูปแบบตายตัว และเชื่อมต่อโดยตรงกับข้อมูลพื้นหลังเพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ส่วนข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างคือ เนื้อหาที่ไม่มีรูปแบบตายตัว เช่น บทสนทนา ข้อความ ภาษาและน้ำเสียงทั้งหมดนี้มีความแตกต่างกัน และนี่เป็นส่วนที่ยากที่สุดในการพัฒนาเทคโนโลยีการทำความเข้าใจภาษาธรรมชาติ
ความยากลำบากในการแนะนำแอปพลิเคชันการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing, NLP) สำหรับองค์กรคือ องค์กรต่างๆมักคาดหวังว่าจะสามารถใช้งานได้ทันทีที่พวกเขาออนไลน์ แต่ข้อมูลที่จำเป็นในการฝึกโมเดลประมวลผลภาษาธรรมชาตินั้น เป็นทรัพยากรที่ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลถึงจะแสดงประโยชน์สูงสุดออกมาได้ เพื่อตอบสนองต่อภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ Aiello จึงได้จัดคอร์สอบรมฝึกการใช้งานล่วงหน้าสำหรับลูกค้าไว้ เพื่อความเข้าใจและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของลูกค้า และสร้างแพลตฟอร์มการประมวลผลภาษาธรรมชาติที่สามารถกำหนดขอบเขตการใช้งานได้ในที่สุด
Vic Shen กล่าวว่าในช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้ง Aiello Inc. ขึ้นมา แม้ว่าเขาจะเห็นภาพรวมด้านศักยภาพของตลาดการให้บริการด้วยภาษาธรรมชาติทั้งหมดแล้ว แต่เขาเชื่อว่าการใช้งานในระดับอุตสาหกรรมจะมีความตรงไปตรงมาและชัดเจนมากกว่า ดังนั้น เขาจึงคิดว่าการให้บริการโดยภาษาธรรมชาติจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีและเป็นที่แพร่หลายในระดับสากลมากกว่า โดยการใช้งาน NLU ผ่านบริการ SaaS (Software as a Service) เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติกรรมและการตอบสนองขององค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น แตกต่างจากองค์กรในยุโรปและอเมริกาที่คุ้นชินในการพัฒนาด้วยตนเองแล้ว แต่พวกเขามักจะหาซัพพลายเออร์ที่ดีเพื่อช่วยในการปรับใช้แทน ดังนั้น หากสามารถใช้ระบบสมัครสมาชิกได้ ต้นทุนการสร้างจะลดลง ทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงเครื่องมือทำเงินที่ดีได้อีกด้วย ทาง Aiello จึงตัดสินใจสร้างการให้บริการแบบ NLU SaaS ขึ้นมา
Vic Shen อธิบายว่าข้อดีของโมเดล SaaS คือการสร้างชุดซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้มีไว้ใช้สำหรับลูกค้าเพียงรายเดียว แต่เป็นถึงทั้งสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานทั่วไปของนักอุตสาหกรรมได้ถึง 90% ดังนั้น โมเดลที่ Aiello ได้สร้างขึ้นมานั้น จึงเหมาะสมกับผู้ใช้งานในอุตสาหกรรมเป็นหลัก และจำเป็นต้องได้รับการปรับแต่งตามสถานที่ให้บริการเป็นพิเศษเท่านั้น เพื่อเป็นการดึงประสิทธิภาพสูงสุดของโมเดลออกมาอย่างเหมาะสมสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะ
และอะไรที่ทำให้ Aiello แตกต่างจาก Google และ Amazon คุณ Vic Shen ได้กล่าวไว้ว่า ที่จริงแล้วความแตกต่างนั้นค่อนข้างมาก ทาง Google และ Amazon จะเน้นการใช้งานที่บ้านของผู้ใช้งานเป็นหลัก ในขณะที่ Aiello จะเน้นการใช้งานในอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย เทคนิคทางการใช้งาน หรือระบบในด้านต่างๆนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น หากคุณถามถึงเวลาอาหารเช้าในโรงแรม ระบบที่ Google และ Amazon ให้บริการอาจไม่เข้าใจในคำถาม เนื่องจากโมเดลดังกล่าวไม่ได้รับการฝึกฝนหรือตั้งค่าการใช้งานสำหรับสถานการณ์ดังกล่าว
การพัฒนา Aiello Voice Assistant ของ Aiello เข้ากับ NLU SaaS สอดคล้องกับแนวโน้มปัจจุบันของ Contact Center as a Service (CCaaS) หรือที่เรียกว่าเป็นการบูรณาการทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า เพื่อให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและประสิทธิภาพการบริการลูกค้าขององค์กร โดย Aiello ได้เริ่มจากการให้บริการในอุตสาหกรรมโรงแรม และจะขยายไปยังสาขาอื่นๆต่อไปในอนาคต เช่น การเงิน การค้าปลีก ฯลฯ เพื่อขยายขอบเขตของ CCaSS
Aiello ได้พัฒนา “Aiello Voice Assistant” อย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมโรงแรม โดยใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ที่สามารถตอบสนองความต้องการและคำสั่งต่างๆของแขกผู้เข้าพักได้ ผ่านห้องพักโดยตรง โดยที่บริการ SaaS นั้นได้เชื่อมต่อกับคลาวด์ผ่านระบบหลังบ้าน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรวบรวมข้อมูลหรือนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งานต่อไปได้ เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล และกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ นอกจากบริการรูมเซอร์วิสและบริการด้านข้อมูลของทางโรงแรมแล้ว Aiello ยังมีบริการเพลงจาก KKBOX และข้อมูลร้านอาหารเด็ดๆ จากความร่วมมือจากรายการวาไรตี้โชว์ของไต้หวัน Super Taste เพื่อมอบบริการที่ครบครันภายในเครื่องเดียวให้กับแขกผู้เข้าพัก
Vic Shen ชี้ให้เห็นว่าในกระบวนการร่วมมือกับโรงแรมนั้น เมื่อเครื่อง Aiello Voice Assistant ได้ถูกติดตั้งสำหรับโรงแรมและได้รับการยืนยันจากทาง Aiello เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาเพียงสองสัปดาห์เท่านั้นและโรงแรมจะสามารถออนไลน์ระบบและใช้งานได้ตามปกติ ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของ Aiello คือการจัดเตรียมระบบคลาวด์การจัดการข้อมูลพื้นหลังของโรงแรม ซึ่งไม่เพียงแต่จะสามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลทั้งหมดได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าใจความต้องการและเงื่อนไขของผู้เข้าพักแต่ละท่านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพผ่านแพลตฟอร์มๆเดียว
สำหรับตลาดต่างประเทศ โรงแรมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ Aiello Voice Assistant เราได้กำหนดเป้าหมายไปที่ตลาดญี่ปุ่นก่อนและประเทศภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Vic Shen ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศท่องเที่ยวที่สำคัญและมีกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดี ตัวอย่างเช่น ประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองในการขาย Google Home คือญี่ปุ่น ดังนั้นการฝึกอบรมผู้ใช้ขั้นพื้นฐานจึงสำเร็จเสร็จสิ้นอย่างง่ายดาย สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสตาร์ทอัพใหม่หลายกลุ่ม และสตาร์ทอัพจำนวนมากเต็มใจที่จะลองเทคโนโลยีและโซลูชั่นใหม่ๆ ส่วน AI สนทนานั้นจะมีการเริ่มใช้งานในสิงคโปร์เร็วๆนี้ เหตุผลหลักสำหรับแผนนี้ในตลาดต่างประเทศคือ ขณะนี้มีสามภาษาที่ระบบรองรับ ได้แก่ จีน อังกฤษ และญี่ปุ่น ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถเปิดตัวในประเทศเหล่านี้ได้เร็วกว่า
ปัจจุบัน Aiello ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงแรมหลายแห่งในไต้หวัน เช่น Silks Place Tainan, Sun Moon Lake Hotel, Taipei Garden Hotel เป็นต้น และได้มีการติดตั้งลำโพงอัจฉริยะนี้ในห้องพักในไต้หวันแล้วประมาณ 3,000 กว่าห้อง Vic Shen คาดว่าจะสามารถเติบโตถึง 10,000 ห้องพักได้ภายในปี 2565 ห้อง และคาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า Aiello จะสามารถเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้าน NLU ได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ถ้าคุณสนใจใน AI ของเรา สามารถติดต่อและทดลองฟรีได้แล้ววันนี้!